คลังสินค้าเอกชน (Private Warehouse) หรืออาจเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่าโกดังสินค้าแบบส่วนตัว คือ คลังสินค้าแบบส่วนตัวที่มีเอกชนหรือธุรกิจต่างๆ เป็นเจ้าของเอง ไม่ว่าจะเป็น ผู้ค้าปลีก ผู้ทำหน้าที่ในการกระจายสินค้า หรือผู้ผลิต โดยคลังสินค้าเอกชนถูกสร้างขึ้นไว้ใช้เก็บรักษาสินค้าเพื่อรอการจัดจำหน่าย หรืออาจใช้เป็นจุดพักสินค้าก่อนทำการกระจายสินค้าไปยังสถานที่ต่างๆ
ผู้ที่มีคลังสินค้าเอกชนเป็นของตัวเองมักจะเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่ต้องการมีคลังสินค้าเป็นของตัวเองในการจัดการดูแลสินค้าจำนวนมาก ซึ่งคลังสินค้าเหล่านี้อาจเป็นโกดังที่ตั้งอยู่ติดกับส่วนที่ผลิตสินค้าในโรงงานโดยตรงของผู้ผลิต หรือโกดังสำหรับจัดเก็บสินค้าของผู้จัดจำหน่ายทั้งค้าส่งและค้าปลีกที่อยู่ใกล้กับร้านค้าของพวกเขา ซึ่งอาจจะมีมากกว่า 1 แห่ง เนื่องจากมีสถานที่สำหรับจำหน่ายสินค้าหลายสาขาด้วยกัน
ข้อดีของคลังสินค้าเอกชน
- เป็นการลงทุนที่ใช้ได้นานในระยะยาว: เมื่อธุรกิจลงทุนซื้อที่และสร้างอาคารสำหรับใช้เป็นคลังสินค้าของตนเองได้เรียบร้อยแล้ว ธุรกิจก็ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าเช่าคลังสินค้าแบบรายเดือนเหมือนคลังสินค้าให้เช่าอีกต่อไป เป็นการลงทุนครั้งเดียวและใช้ได้นาน ซึ่งทำให้มีต้นทุนต่ำกว่าในระยะยาว
- มีคลังสินค้าติดกับโรงงานผลิตได้: หากธุรกิจมีคลังสินค้าที่อยู่ติดกับโรงงานผลิตของตัวเองก็ทำให้การจัดเก็บสินค้าหลังจากผลิตเสร็จแล้วเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถประหยัดค่าขนส่งไปยังคลังสินค้าอื่นเพื่อพักสินค้าได้อีกด้วย หากมีคลังสินค้าเป็นของตัวเอง ธุรกิจสามารถที่จะเลือกโลเคชันที่เหมาะสำหรับใช้สร้างเป็นสถานที่จัดเก็บสินค้าได้ โดยเฉพาะในธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับโลเคชัน เช่น สินค้าที่มีกลุ่มลูกค้าในบางพื้นที่เท่านั้น ทำให้การมีคลังสินค้าประจำอยู่ที่สถานที่ใดสถานที่หนึ่งสะดวกต่อการขนส่งสินค้าและง่ายต่อการดูแลมากกว่า
- ดูแลควบคุมได้ง่าย: การมีคลังสินค้าเอกชนเป็นของตัวเองทำให้สามารถจัดการดูแลสินค้าได้ง่ายกว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่ภายในโรงงานหรือร้านค้าของธุรกิจเอง ในขณะที่คลังสินค้าแบบอื่นๆ อาจสร้างความกังวลต่อธุรกิจได้เกี่ยวกับสินค้าสูญหายหรือถูกทำลายโดยคนนอก
- ยืดหยุ่นได้มากกว่า: เนื่องจากเป็นพื้นที่ของธุรกิจเอง การดัดแปลงอาคารหรือการจัดการดูแลอาคารสามารถทำได้ตามที่ต้องการมากกว่าการเช่าคลังสินค้าสาธารณะ (public warehouse)
- ใช้ผลประโยชน์จากทรัพยากรส่วนบุคคลได้ดีกว่า: เนื่องจากคลังสินค้าส่วนตัวส่วนใหญ่มักจะอยู่ใกล้กับตัวโรงงานหรือร้านค้า ทำให้พนักงานของบริษัทสามารถเข้าไปดำเนินงานเข้าออกคลังสินค้าได้ง่ายและสะดวกมากกว่า
ข้อเสียของคลังสินค้าเอกชน
- มีข้อจำกัดทางการเงิน: เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าที่ ค่าก่อสร้างอาคาร และอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับคลังสินค้า ทำให้คลังสินค้าเอกชนอาจไม่เหมาะเป็นตัวเลือกสำหรับธุรกิจใหม่หรือธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางที่ยังต้องการประหยัดเงินทุนในช่วงแรก
- ผลตอบแทนจากการลงทุนต่ำ: เนื่องจากการสร้างคลังสินค้าและซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ใช้เป็นที่จัดเก็บสินค้าและแทบไม่ได้สร้างรายได้อะไรเพิ่มเติมให้กับธุรกิจเลย การลงทุนครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการลงทุนครั้งใหญ่ที่ได้ผลตอบแทนกลับค่อนข้างน้อยและใช้เวลานานกว่าจะคืนทุนได้
- ใช้พื้นที่เป็นจำนวนมาก: บางธุรกิจอาจขยายอย่างรวดเร็วหรือต้องการพื้นที่สำหรับจัดเก็บสินค้าเพิ่มเติมในบางช่วงที่มีการสั่งผลิตสินค้ามากกว่าปกติ เช่น ช่วงเทศกาล ทำให้ธุรกิจอาจไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเก็บรักษาสินค้าในภายหลัง ธุรกิจเหล่านั้นจึงหันมากเลือกที่จะเช่าคลังสินค้าสาธารณะเพื่อให้มีพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับการเก็บรักษาสินค้าของพวกเขา
คลังสินค้าเอกชนมีข้อดีหลายอย่างด้วยกันแต่สิ่งที่สำคัญมากที่หลายธุรกิจกังวลเป็นอันดับต้นๆ ก็คือข้อจำกัดทางการเงินที่มีสำหรับใช้เป็นต้นทุนในการสร้างคลังสินค้าแบบส่วนตัวของตนเองเนื่องจากเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนต่ำและใช้เวลานาน ทำให้คลังสินค้าแบบสาธารณะเข้ามามีบทบาทและกลายเป็นตัวเลือกสำหรับหลายๆ ธุรกิจ
แต่หากลองชั่งน้ำหนักดูแล้วธุรกิจของคุณเหมาะที่จะใช้บริการเช่าคลังสินค้ามากกว่า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมจากบริการให้เช่าคลังสินค้าจากโชติธนวัฒน์ได้เลยที่นี่ warehousechod.com/th/services เรามีคลังสินค้าให้เช่าในทำเลดี ไม่ว่าจะเป็น คลังสินค้าบางนา และอีกมากมาย