ข้อควรรู้เกี่ยวกับโกดังคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Cold Warehouse)
คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิหรือคลังเย็น (Cold Storage Warehouse) คือ คลังเก็บสินค้าที่มีการควบคุมอุณหภูมิให้มีความเย็นพอเหมาะที่จะเก็บสินค้าบางประเภท ที่ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำเพื่อรักษาคุณภาพสินค้า ในปัจจุบันคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น จากความต้องการใช้งานของผู้ผลิตอาหาร เครื่องสำอาง อาหารเสริม และสินค้าอื่น ๆ ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งการเลือกคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจมีความสำคัญมาก
1. คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ คืออะไร?
คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิหรือคลังเย็น คือ พื้นที่จัดเก็บสินค้าที่มีการควบคุมอุณหภูมิภายในพื้นที่นั้น ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ ไม่ปล่อยให้อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงตามสภาพภายนอก ทั้งนี้คลังสินค้าห้องเย็นจะมีระดับความเย็นตั้งแต่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียสจนถึงติดลบ ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าที่จัดเก็บ เช่น อาหารสด เครื่องสำอาง ยาหรืออาหารเสริม เป็นต้น
2. วัตถุประสงค์ของคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ
การควบคุมอุณหภูมิ มีผลต่อการชะลอการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในอาหาร ช่วยลดอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในอาหาร และช่วยลดอัตราการหายใจของผักและผลไม้ ทำให้อาหารต่าง ๆ เกิดการเน่าเสียช้าลง สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานมากยิ่งขึ้น การเก็บรักษาอาหารได้นาน ช่วยในเรื่องของการ Stock สินค้า ไม่ต้องนำเข้าอาหารในปริมาณน้อยเกินไป เพราะกังวลเรื่องการเน่าเสีย แต่สามารถนำเข้าสินค้าในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อความคุ้มทุน ทำให้คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิมีความสำคัญกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอาหารโดยเฉพาะ
3. สินค้าอะไรบ้างที่ควรจัดเก็บในคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ
จากที่ได้กล่าวไปในข้างต้น จะพบว่าสินค้าที่ต้องจัดเก็บในคลังควบคุมอุณหภูมิส่วนมากคือ “อาหาร”เนื่องจากสามารถเน่าเสียได้ จึงต้องเก็บไว้ในความเย็น แต่นอกจากนี้ก็ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่ควรเก็บในคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิเช่นกัน เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า ดังต่อไปนี้
1. อาหารและเครื่องดื่ม
อาหารเป็นสินค้าอันดับต้น ๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ เพราะอาหารสามารถเน่าเสียได้ง่าย ดังนั้นจึงต้องเก็บรักษาให้อยู่ในอุณหภูมิต่ำ เพื่อป้องกันการเน่าเสียและยืดอายุการเก็บรักษาให้ยาวนานขึ้น นอกจากอาหารแล้วยังมีเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยการจัดเก็บโดยการควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าไว้ เช่น ไวน์ น้ำผลไม้ นม เป็นต้น
2. เครื่องสำอาง
นอกจากการเก็บสินค้าในอุณหภูมิต่ำ ก็ยังมีสินค้าบางประเภทที่ควรอยู่ในคลังควบคุมอุณหภูมิปกติหรืออุณหภูมิห้อง เพราะถ้าหากอยู่นอกพื้นที่ควบคุม หากพื้นที่นั้นมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นเกินกว่าอุณหภูมิห้อง ก็อาจทำให้สินค้าได้เสื่อมคุณภาพได้ อย่างสินค้าเครื่องสำอางทั้งกลุ่ม Make up และกลุ่ม Skin care ที่ควรได้รับการจัดเก็บในคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ช่วยลดอัตราความเสื่อมของสินค้าได้
3. ยา วิตามิน
อีกหนึ่งกลุ่มสินค้า คือ ยาและวิตามิน หรือพวกอหารเสริมทั้งหลายที่บางครั้งต้องใช้คลังควบคุมอุณหภูมิเช่นกัน เพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพภายในโครงสร้างระดับโมเลกุลของสินค้า หากไม่ได้รับการควบคุมแล้วบังเอิญว่าพื้นที่ที่เก็บสินค้ามีอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น อาจทำให้เกิดการเสื่อม ทั้งยังอาจเกิดปัญหาปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอมได้อีกด้วย
4. สินค้าที่มีลักษณะแบบขี้ผึ้ง
เทียนหรือผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นขี้ผึ้ง การเก็บในห้องเย็นช่วยป้องกันการปนเปื้อนและคงรูปผลิตภัณฑ์ซึ่งมีโอกาสละลายได้เมื่ออยู่ภายใต้อุณหภูมิที่สูงขึ้น
4. ควรเช่าหรือสร้างคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิใช้เอง
การตัดสินใจในเรื่องการเช่าหรือสร้างคลังควบคุมอุณหภูมินั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณความแน่นอนของสินค้าที่ต้องการจัดเก็บในคลังควบคุมอุณหภูมิ ถ้าหากจำหน่ายสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิในปริมาณไม่แน่นอนในแต่ละเดือน ความต้องการในการใช้พื้นที่คลังเย็นน้อย การสร้างคลังเย็นใช้เองอาจเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า หรือในกรณีที่มีปริมาณสินค้าจำนวนมากในบางช่วงเวลา การที่ต้องการขยายพื้นที่จัดเก็บสินค้าที่มีอยู่เดิมเพื่อรองรับปริมาณสินค้าที่ไม่แน่นอนนี้ อีกทั้งจำนวนพนักงานอาจไม่เพียงพอที่จะดูแลงานที่มีปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้ต้องเพิ่มต้นทุนในการสร้างและจัดการคลังสินค้ายิ่งขึ้นไปอีกพร้อมกับต้องเสี่ยงกับความไม่แน่นอนของปริมาณสินค้าในอนาคต ดังนั้นในกรณีที่ปริมาณการจัดเก็บไม่แน่นอนแบบนี้การเช่าคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิจึงเป็นตัวเลือกที่ดูเหมาะสมกว่า
5. ใช้บริการคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
1. ขนาด
พิจารณาขนาดของคลังสินค้าว่าเพียงพอต่อการจัดเก็บสินค้าหรือไม่ หรือขนาดห้องในคลังสอดคล้องกับปริมาณสินค้าหรือไม่ หากเล็กเกินไปจะทำให้ไม่เพียงพอต่อการจัดเก็บ แต่ถ้าหากใหญ่เกินไป อาจทำให้ค่าใช้จ่ายมากเกินความจำเป็น หรือพิจารณาว่าสามารถแชร์คลังเย็นกับผู้ประกอบการรายอื่นได้หรือไม่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายกรณีที่ห้องใหญ่เกินไป หรือควรหาคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่คิดราคาตามปริมาณสินค้าเป็นตามพื้นที่ที่ใช้จริง เช่น ต่อตารางเมตร ต่อลูกบาตรเมตร หรือต่อพาเลท เป็นต้น
2. ราคา
ราคาเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับต้น ๆ ลองเปรียบเทียบดูว่าผู้ให้บริการรายไหนกำหนดอัตราราคาเอาไว้คุ้มค่ามากที่สุด ตั้งแต่ราคาการจัดเก็บไปจนถึงอัตราค่าไฟ ทั้งนี้ต้องพิจารณาด้วยว่าฟังก์ชั่นของคลังสินค้าควบคุมอุณภูมิเหมาะสมกับการจัดเก็บสินค้าของเราหรือไม่ หากมีราคาถูกแต่ไม่เหมาะสมด้วยองค์ประกอบต่างๆ อาทิ สถานที่ตั้ง ระยะทางที่ไกลเกินไป อุณหภูมิไม่เหมาะกับสินค้า เป็นต้น
3. การขนส่ง
นอกจากเรื่องการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิแล้ว การขนส่งสินค้าก็มีความสำคัญมากไม่แพ้กัน ดังนั้นคลังสินค้าควบคุมอุณภูมิควรมีที่ตั้งที่เหมาะสมและเอื้ออำนวยต่อการขนส่งสินค้า หรือถ้าหากทางคลังมีบริการขนส่งสินค้าหรือบริการอื่นๆ เช่น fulfillment packing ให้บริการด้วยก็เป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากสามารถใช้บริการได้อย่างครบวงจร แต่ก็ควรพิจารณาเรื่องค่าบริการในการขนส่งและบริการอื่นๆให้เหมาะสมด้วย
4. ระยะเวลาในการรับจัดเก็บสินค้า
ควรพิจารณาดูว่าคลังสินค้านั้นรับจัดเก็บนานเท่าไร หรือคิดราคาอย่างไรในการรับจัดเก็บสำหรับระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น คำนึงถึงระยะเวลาที่คลังสินค้าสามารถรับฝากได้ว่าสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหรือไม่อย่างไร เพราะถ้าหากบางคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิมีกำหนดระยะเวลาการรับฝาก หากไม่สามารถระบายสินค้าออกขายได้ทัน อาจทำให้เกิดความเสียหายกับตัวสินค้าหรือธุรกิจได้
ทั้งหมดนี้เป็นข้อควรรู้เกี่ยวกับของการใช้บริการคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิซึ่งมีความสำคัญมากกับธุรกิจที่สินค้าต้องจัดเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมเท่านั้น ในปัจจุบันคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จากความต้องการในการใช้งานของผู้ผลิตอาหาร เครื่องสำอาง และอาหารเสริม การเลือกคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจก็มีความสำคัญมากไม่แพ้กัน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมจากบริการให้เช่าคลังสินค้าจากโชติธนวัฒน์ได้เลยที่นี่ warehousechod.com/th/services เรามีคลังสินค้าให้เช่าในทำเลดี ไม่ว่าจะเป็น คลังสินค้าบางนา และอีกมากมาย